GLM หรือ ChatGLM คือโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถสนทนา ตอบคำถาม และช่วยงานต่างๆ ได้เหมือนผู้ช่วยส่วนตัว พัฒนาโดยบริษัท Z.ai จากประเทศจีน ร่วมกับมหาวิทยาลัยซิงหัว ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก สิ่งที่ทำให้ GLM พิเศษคือใครก็สามารถนำไปใช้ได้ฟรี เพราะเป็นแบบ “โอเพนซอร์ส” คล้ายกับซอฟต์แวร์ที่เปิดให้ทุกคนนำไปต่อยอดได้
GLM ทำอะไรได้บ้าง
GLM เปรียบเสมือนผู้ช่วยอัจฉริยะที่มีความสามารถหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม เขียนเนื้อหา วิเคราะห์ข้อมูล หรือแม้แต่ช่วยเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการเขียนบทความ สรุปเอกสารยาวๆ หรือถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ GLM ก็สามารถช่วยได้ทันที
สิ่งที่น่าสนใจคือ GLM สามารถจำบทสนทนาที่ยาวมากได้ ประมาณ 128,000 คำ ซึ่งเทียบได้กับหนังสือหนาๆ เล่มหนึ่ง นั่นหมายความว่าคุณสามารถคุยหรือให้ข้อมูลกับมันได้เยอะๆ โดยไม่ต้องกลับมาย้ำซ้ำ
มี 2 รุ่นให้เลือกตามความต้องการ
GLM มีให้เลือก 2 แบบคือ GLM-4.5 แบบเต็ม และ GLM-4.5-Air แบบเบา ลองนึกภาพเหมือนรถยนต์ที่มีรุ่นใหญ่กับรุ่นเล็ก – รุ่นใหญ่มีพลังมาก แต่รุ่นเล็กก็วิ่งเร็วและประหยัดน้ำมันกว่า GLM-4.5-Air เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเร็ว ส่วน GLM-4.5 เหมาะกับงานที่ซับซ้อนมากๆ
ราคาถูกกว่าคู่แข่ง
หนึ่งในจุดเด่นของ GLM คือราคาที่ถูกกว่า AI ตัวอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ถ้าเทียบกับ DeepSeek ซึ่งเป็น AI ดังอีกตัวหนึ่ง GLM คิดค่าใช้จ่ายแค่ 0.11 ดอลลาร์ต่อหนึ่งล้านคำ ในขณะที่ DeepSeek คิด 0.14 ดอลลาร์ สำหรับคนที่ต้องใช้บ่อยๆ ความแตกต่างนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
ทำไมถึงเร็วและประหยัด
GLM ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “Mixture-of-Experts” ซึ่งเปรียบได้กับการมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนอยู่ในทีม เมื่อมีงานเข้ามา ระบบจะเลือกให้เฉพาะผู้เชี่ยวชาญที่เหมาะสมมาทำงานนั้น ไม่ใช่เรียกทุกคนมาพร้อมกัน วิธีนี้ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งแปลว่าประหยัดค่าใช้จ่ายได้
โหมดการทำงาน 2 แบบ
GLM มีโหมดการทำงาน 2 แบบที่น่าสนใจ โหมดแรกเรียกว่า “โหมดคิด” ที่จะใช้เวลาคิดและวิเคราะห์อย่างละเอียดก่อนตอบ เหมาะกับคำถามที่ซับซ้อน โหมดที่สองคือ “โหมดตอบเร็ว” ที่จะตอบคำถามง่ายๆ ได้ทันที เปรียบเหมือนคุณถามคนฉลาด บางทีเขาต้องคิดนานหน่อย บางทีตอบได้เลย ขึ้นอยู่กับความยากของคำถาม
ใช้งานได้ฟรีและพัฒนาต่อได้
สิ่งที่ทำให้ GLM แตกต่างจาก AI ตัวอื่นๆ คือการเป็น “โอเพนซอร์ส” หมายความว่าทุกคนสามารถนำไปใช้งานได้ฟรี และหากมีความรู้ ก็สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับงานของตัวเองได้ เหมือนกับได้สูตรอาหารมา แล้วเราสามารถปรับเปลี่ยนรสชาติตามความชอบได้
เหมาะกับใครบ้าง
GLM เหมาะกับทุกคนที่ต้องการใช้ AI ช่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนที่ต้องการความช่วยเหลือในการเขียนบทความ นักธุรกิจที่ต้องวิเคราะห์ข้อมูล หรือแม้แต่นักเรียนที่ต้องการถามคำถามและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ องค์กรต่างๆ ก็สามารถนำไปใช้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก เพราะราคาที่ถูกกว่าคู่แข่ง
สรุป
GLM คือ AI ที่ทรงพลังแต่เข้าถึงได้ง่าย มีราคาถูก ใช้งานได้ฟรี และมีความสามารถไม่แพ้ AI ดังๆ ระดับโลก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการออกแบบที่ชclever ทำให้ GLM เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับทุกคนที่ต้องการใช้ประโยชน์จาก AI ในชีวิตประจำวันหรือในการทำงาน ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ GLM ก็พร้อมเป็นผู้ช่วยที่ดีของคุณได้
GLM เข้าใช้งานได้หลายช่องทาง ขึ้นอยู่กับความต้องการและความถนัดของผู้ใช้ ดังนี้cometapi+1
ช่องทางการเข้าใช้งาน
ใช้ผ่านเว็บไซต์โดยตรง (แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น)
วิธีที่ง่ายที่สุดคือเข้าไปที่เว็บไซต์ chat.z.ai เพียงพิมพ์ที่อยู่นี้ในเบราว์เซอร์ คุณก็สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องสมัครสมาชิกหรือลงชื่อเข้าใช้ เหมือนกับการเข้าใช้ ChatGPT แต่ฟรีและไม่จำกัดการใช้งาน เพียงแค่พิมพ์คำถามหรือคำสั่งที่ต้องการ ระบบก็จะตอบกลับมาทันที
ใช้ผ่าน API (สำหรับนักพัฒนา)
สำหรับคนที่มีความรู้ด้านโปรแกรมหรือต้องการนำไปพัฒนาแอปพลิเคชัน สามารถเชื่อมต่อผ่าน API ของ Z.ai ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
- เข้าไปสมัครสมาชิกที่เว็บไซต์ Z.ai
- เติมเงินขั้นต่ำอย่างน้อย 5 ดอลลาร์ในส่วน “Billing”
- สร้าง API Key ในส่วน “API Keys”
- นำ API Key ไปใช้ในโปรแกรมของคุณ
API ของ GLM ถูกออกแบบให้เข้ากันได้กับ OpenAI ทำให้สามารถนำมาใช้แทนกันได้อย่างง่ายดาย
ใช้ผ่านแพลตฟอร์มอื่นๆ
นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึง GLM ผ่านแพลตฟอร์มตัวกลางอย่าง CometAPI หรือ Vercel AI Gateway ซึ่งให้บริการ API ที่รวม AI หลายตัวไว้ในที่เดียว ทำให้สะดวกในการเปรียบเทียบและสลับใช้งานระหว่างโมเดล AI ต่าง ๆ
เลือกโมเดลตามความต้องการ
เมื่อเข้าใช้งานแล้ว คุณสามารถเลือกโมเดลได้ 2 แบบ
- GLM-4.5: เวอร์ชันเต็มที่มีความสามารถสูงสุด เหมาะกับงานซับซ้อน
- GLM-4.5-Air: เวอร์ชันเบาที่เร็วและประหยัดกว่า เหมาะกับงานทั่วไป
บนเว็บไซต์ chat.z.ai คุณสามารถเลือกโมเดลได้จากมุมซ้ายบนของหน้าจอ
ข้อดีของการใช้งานผ่านเว็บ
การใช้งานผ่าน chat.z.ai มีข้อดีหลายประการyoutube+1
- ไม่ต้องสมัครสมาชิก สามารถใช้งานได้ทันที
- ไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้งานได้ฟรีไม่จำกัด
- มีหน้าจอแสดงผลให้เห็นทันที เหมาะกับการทดลองและสร้างแอปพลิเคชัน
- รองรับการค้นหาข้อมูลบนเว็บ (Web Search) และโหมดคิดเชิงลึก (Deep Think)
สำหรับคนทั่วไปที่ต้องการลองใช้งาน แนะนำให้เริ่มต้นที่ chat.z.ai เพราะใช้งานง่ายที่สุดและไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนผู้ที่ต้องการนำไปพัฒนาแอปพลิเคชันเพิ่มเติม ค่อยมาศึกษาการใช้งานผ่าน API ในขั้นตอนถัดไป